ค้นหา Insights เพื่อพัฒนาภายในสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อการเข้าใจปัญหาสังคม…พาเราเข้าใจตัวเอง

ในโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราพยายามสร้างนวัตกรรม เพื่อแก้ปัญหารอบตัว แต่หลายครั้ง การรีบมองหาวิธีแก้ อาจทำให้เรามองข้ามสิ่งสำคัญที่สุด นั่นคือการเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง และเข้าใจผู้คนที่อยู่ในปัญหานั้นอย่างแท้จริง

กระบวนการค้นหาข้อมูลเชิงลึก (Insights) จึงไม่ได้มีไว้เพื่อการพัฒนาโครงการทางสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ของการเรียนรู้ภายใน ที่ช่วยให้เราได้ฝึกการมอง ฟัง และเข้าใจ ทั้งโลกภายนอกและโลกภายในของตัวนวัตกรเอง เพราะ Insights ไม่ได้อยู่แค่ในข้อมูลหรือข้อเท็จจริง แต่ซ่อนอยู่ในความหมาย ความรู้สึก และประสบการณ์ของมนุษย์ที่มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับสิ่งต่าง ๆ

การพัฒนาทักษะ สู่การเติบโตจากภายใน

หลายคนอาจมองว่ากระบวนการค้นหา Insights เป็นกระบวนการวิจัยหรือกระบวนการออกแบบนวัตกรรม แต่อีกนัยหนึ่งยังเป็นการฝึกในการเข้าใจตนเองและเข้าใจชีวิตของผู้อื่นอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

ระหว่างการเดินทางค้นหา Insights เราไม่ได้เพียงเรียนรู้วิธีตั้งคำถามหรือวิเคราะห์ข้อมูล แต่ยังได้พัฒนาตนเองตาม Inner Development Guide ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาที่เน้นการเติบโตจากภายใน เพื่อเป็นรากฐานของการสร้างการเปลี่ยนแปลงภายนอกอย่างยั่งยืน 

โดยคุณลักษณะตามแนวทาง IDGs เป็นรากฐานของการเป็น “นวัตกรเพื่อสังคม” ที่ไม่เพียงสร้างสิ่งใหม่ ๆ แต่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายและเชื่อมโยงกับผู้คนจริง ๆ 

กรณีศึกษา

เส้นทางการค้นหาข้อมูลเชิงลึก ของ อาทิตย์ ทองคำ หรือ คิน นวัตกรสังคมผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่บ้านเกิด จ.เพชรบุรี เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างยิ่งของการเติบโตจากภายในสู่การเปลี่ยนแปลงสังคม โดยเรื่องราวของเขาต่อไปนี้เป็นการแปลจากบทความ “Keeping students in school with the Inner Development Goals Framework and the Insights Finding Tool: A Thai Case Study” เขียนโดยทีม Insights for Change ในหนังสือ Inner Development Goals, Stories of Collective Leadership in Action, Volume 2: From “We” to “Systems Change”

ภาพจาก : De Gruyter Brill

เส้นทางแห่งการเติบโตภายใน ผ่านกระบวนการค้นหา Insights: อาทิตย์ ทองคำ

กระบวนการค้นหาข้อมูลเชิงลึก (Insights Finding) ไม่ใช่แค่การรวบรวมข้อมูลภายนอก แต่ยังเป็นการเดินทางภายในที่ลึกซึ้งของนวัตกรสังคม ดังเช่นกรณีของ อาทิตย์ ทองคำ ที่ศึกษาปัญหาการลาออกของนักเรียนในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งสะท้อนการพัฒนาทักษะภายในผ่าน 5 ขั้นตอนหลัก ดังนี้

ภาพจาก : Insights for Change

1. สำรวจและกำหนดขอบเขตของปัญหา (Exploring and Scoping Problem)

จุดเริ่มต้นคือการตั้งคำถามที่ลึกและจริงใจ ผู้ผ่านกระบวนการจะได้ฝึกการคิดเชิงระบบ (Systems Thinking) และการตระหนักรู้ในความซับซ้อน (Complexity Awareness) เพื่อเห็นภาพใหญ่โดยไม่หลงอยู่กับสถานการณ์ นี่คือการฝึกยอมรับว่าปัญหาหนึ่งมีหลายแง่มุม

อาทิตย์เริ่มต้นด้วยการใช้เครื่องมือ Mind Map เพื่อมองปัญหาการลาออกให้เป็นระบบ เขาได้เห็นความเชื่อมโยงของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน, ผู้ปกครอง, ครู, และชุมชน การใช้เครื่องมือ Visual Scoping ช่วยให้เขาเห็นขอบเขตผลกระทบที่กว้างกว่าที่คิด แม้ในขณะนั้นเขาจะมีสมมติฐานเบื้องต้นว่าปัญหาจำกัดอยู่ที่นักเรียน ม.1-3 แต่กระบวนการนี้ก็ช่วยเปิดมุมมองให้เขาพร้อมที่จะค้นพบความจริงที่ต่างออกไป

2. ค้นคว้าข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Research)

ขั้นตอนนี้ไม่เพียงเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล แต่คือการ “วิเคราะห์และทำความเข้าใจ” ข้อมูล ฝึกความคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) ผ่านการประเมินความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล และฝึกการสร้างความเข้าใจ (Sense-making) ผ่านการสังเกตและจัดระเบียบข้อมูลที่ซับซ้อนให้เป็นระบบ

อาทิตย์ใช้เครื่องมือการคิดเชิงระบบแบบจำลองภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg Model) เพื่อจัดระเบียบข้อมูลทุติยภูมิ และยังได้ฝึกการคิดเชิงวิพากษ์โดยไม่ด่วนสรุปตาม “ความคิดเห็น” ของชุมชนที่ว่าเด็ก “ขี้เกียจ” แต่กลับนำข้อมูลสถิติที่ค้นพบ เช่น 68.4% ของเด็กที่ลาออกถูกผู้ปกครองใช้คำพูดหยาบคาย มาประกอบ เพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ภูเขาน้ำแข็ง ช่วยให้เห็นรูปแบบของปัญหาที่ลึกกว่าแค่พฤติกรรมของตัวเด็ก

3. เตรียมตัวทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย (Empathize Preparation)

ก่อนจะลงพื้นที่ไปฟังเสียงของผู้อื่น เราเริ่มจากการ “ฟังเสียงของตัวเอง” ขั้นตอนนี้ชวนให้ได้ทบทวน อคติ ความเชื่อ และค่านิยมของตนเอง เพื่อเตรียมใจให้เปิดรับอย่างแท้จริง นี่คือการฝึกการตระหนักรู้ในตนเอง (Self-awareness) และความเมตตา (Compassion) ต่อทั้งตนเองและผู้ให้สัมภาษณ์

นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญของอาทิตย์ เขาต้องฝึกการตระหนักรู้ในตนเองอย่างสูง เพื่อ ยอมรับอคติ (Bias) ของตัวเอง ที่เคยเชื่อว่า “การลาออกเป็นทางเลือกของเด็กขี้เกียจ” เขาตั้งสติและเปลี่ยนอคตินั้นมาเป็นการ “เตรียมคำถาม” ที่ละเอียดอ่อน คำถามเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำความเข้าใจเหตุผลที่แท้จริง ไม่ใช่เพื่อตัดสิน ซึ่งเป็นก้าวแรกของการเตรียมตัวรับฟังอย่างเข้าอกเข้าใจ

4. ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย (Empathizing)

เมื่อเข้าสู่ช่วงของการพูดคุยกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ผ่านกระบวนการจะได้ฝึกการเปิดพื้นที่รับฟังอย่างตั้งใจและการอยู่กับปัจจุบันขณะ (Presence) การได้รับรู้ประสบการณ์ชีวิตผ่านการฟังอย่างลึกซึ้ง ทำให้ได้ฝึกฝนทักษะการทำความเข้าอกเข้าใจและความเมตตา (Empathy and Compassion) ซึ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงระดับบุคคลให้กับตัวนวัตกรเอง

อาทิตย์ได้ลงพื้นที่จริงเพื่อสัมภาษณ์นักเรียนที่ลาออก 3 คน (ซึ่งหนึ่งในนั้นคือญาติของเขา) เขาไม่เพียงแค่ถามคำถาม แต่เขาฝึกการอยู่กับปัจจุบันขณะ (Presence) โดยใช้เครื่องมือ Interview Record (Field Note) เพื่อสังเกตอวัจนภาษา แววตา และน้ำเสียง การที่เขาได้ “รับฟัง” เรื่องราวที่ละเอียดอ่อนของญาติโดยตรง ได้สร้างความรู้สึกเข้าอกเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้มุมมองของเขาที่มีต่อเด็กกลุ่มนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

5. การสกัดข้อมูลเชิงลึก (Insights Extraction)

เมื่อข้อมูลและประสบการณ์ทั้งหมดถูกนำกลับมาทบทวน ขั้นตอนถัดมาคือการฝึกสังเคราะห์ข้อมูล (Synthesis) เพื่อเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ยินและสิ่งที่รู้เข้าด้วยกัน ผ่านการใช้ความคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) เพื่ออดทนอยู่กับความซับซ้อน จนกว่าจะเกิด “ความเข้าใจใหม่”

ข้อมูลเชิงลึก (Insights) ที่ดีไม่ใช่แค่ข้อสรุป แต่คือ “ความเข้าใจที่เปลี่ยนมุมมองของเราไปในระหว่างทาง”

อาทิตย์นำข้อมูลทั้งหมดมาสังเคราะห์ผ่านเครื่องมือ Journey Mapping และ Synthesis Review เขาเชื่อมโยงข้อมูลทุติยภูมิ (สถิติ) เข้ากับข้อมูลปฐมภูมิ (การสัมภาษณ์) และในที่สุด เขาก็ได้พบ “ความเข้าใจใหม่” ที่เปลี่ยนมุมมองของเขาทั้งหมด นั่นคือ นักเรียนเริ่มคิดถึงการลาออกและเริ่มตัดขาดความสัมพันธ์กับโรงเรียนตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา

ข้อมูลเชิงลึกนี้ ไม่ใช่แค่ข้อสรุป แต่เป็น “ความเข้าใจที่เปลี่ยนมุมมอง” โดยสิ้นเชิง มันทำให้อาทิตย์เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายจากการ “แก้ไข” ที่เด็ก ม.ต้น ไปสู่การ “ป้องกัน” ที่เด็กประถมศึกษา ซึ่งเป็นจุดคานงัดที่สำคัญของปัญหานี้ นำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่แก้ไขปัญหานี้จนทำให้อัตราการออกจากโรงเรียนกลางคันของนักเรียนใน ต.บ้านแหลม ลดเกือบ 30% ของอัตราการออกจากโรงเรียนกลางคันในปีก่อนหน้า

ภาพจาก : อาทิตย์ ทองคำ

สำหรับอาทิตย์แล้ว การผ่านกระบวนการค้นหาข้อมูลเชิงลึก “เป็นความภูมิใจแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต…ที่จริงมันไม่ใช่แค่เราไปแก้ปัญหาการเรียนรู้ของคนอื่น เราแก้ปัญหาการเรียนรู้ของเราด้วย คือเราได้เรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่เคยทำ หรือไม่คิดว่าจะทำได้

พลังของการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มจากข้างใน

การค้นหา Insights ทำให้เราตระหนักว่า “การเข้าใจโลก” เริ่มจาก “การเข้าใจตัวเอง”

เมื่อเรารู้จักตั้งคำถามอย่างลึก ฟังอย่างตั้งใจ และมองเห็นคุณค่าของมนุษย์ในหลากมิติ เราจะสามารถออกแบบนวัตกรรมที่ “มีหัวใจ” กล่าวคือ ไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหา แต่เป็นการพัฒนาภายในของนวัตกร และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

การพัฒนา Inner Development Goals ผ่านกระบวนการค้นหา Insights จึงไม่เพียงเป็นการสร้างนวัตกรที่เก่งขึ้น แต่เป็นการสร้าง “มนุษย์ที่เติบโตขึ้น”มนุษย์ที่เข้าใจความซับซ้อนของโลก โดยไม่หลงทาง มนุษย์ที่ใช้ทั้งเหตุผลและความเมตตา เป็นแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

หากคุณอยากพัฒนา Inner Development Goals (IDGs) อยากเข้าใจโลกที่ซับซ้อนอย่างลึกซึ้ง และอยากออกแบบการเปลี่ยนแปลงที่เชื่อมโยง “หัวใจของมนุษย์” เข้ากับ “เป้าหมายของสังคม”

ขอเชิญมาร่วมเรียนรู้กับเราในกระบวนการค้นหา Insights โดยสามารถลงชื่อสนใจเข้าร่วม
โปรแกรม Insights to Innovation 2026 เพื่อรับข่าวสารการประชาสัมพันธ์โครงการได้เร็วๆ นี้

อ้างอิง
1. เกี่ยวกับ IDGs https://innerdevelopmentgoals.org/framework/